โบท็อกซ์ (Botox) สุดยอดหัตถการเสกผิวให้สวยเด้งเต่งตึงได้แบบทันใจที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนานมาหลายสิบปีเพราะการฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการเล็กที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาในการรักษาและพักฟื้นไม่นานแถมยังมีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดการตกค้างสะสมภายในร่างกายและยังสามารถฉีดโบท็อกซ์ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้ครอบคลุมหลากหลายบริเวณ สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ และกำลังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร? โบท็อกซ์ ฉีดจุดไหนได้บ้าง ฉีดได้บ่อยแค่ไหน? บทความนี้จาก The Miss Clinic รวมทุกเรื่องน่ารู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ไว้ในบทความนี้แล้ว
สารบัญ
โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร
โบท็อกซ์ คือ สารโปรตีน Botulinum toxin type A ที่มีคุณสมบัติเป็นพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) สกัดได้จากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ซึ่งถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อความงาม และการชะลอวัยมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายสิบปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนิยมฉีดโบท็อกซ์ที่บริเวณใบหน้า และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยที่มีอยู่แล้วให้ดูจางลง และช่วยลดโอกาสการเกิดขึ้นของริ้วรอยใหม่ ๆ
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับแต่งสัดส่วนให้สวยงามได้รูปมากยิ่งขึ้น เช่น โบท็อกซ์ลดกราม โบท็อกซ์โหนกแก้ม โบท็อกซ์กรอบหน้า เพื่อปรับหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-shape นอกจากนี้ยังมีการใช้โบท็อกซ์ เพื่อบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ อย่างโรคออฟฟิศซินโดรม อาการปวดศีรษะไมเกรนได้อีกด้วย ปัจจุบันมีโบท็อกซ์ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีระดับราคาและคุณสมบัติในการรักษาที่แตกต่างกัน เช่น โบท็อกซ์ Allergan, Dysport, โบท็อกซ์ Nabota, Aestox, โบท็อกซ์ Xeomin เป็นต้น
หลักการทำงานของโบท็อกซ์
หลักการทำงานของตัวยาโบท็อกซ์เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิว คือ สารโปรตีน Botulinum toxin type A ที่มีคุณสมบัติเป็นสารพิษจะส่งผลออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยการเข้าไปรบกวนไม่ให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทออกมา ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถเกร็งหรือหดตัวได้ตามปกติ เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว ไม่หดเกร็ง จึงทำให้ริ้วรอยทั้งแบบตื้น และแบบลึกแลดูจางลง ช่วยป้องกันปัญหาริ้วรอยเกิดใหม่ นอกจากนี้การฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อให้เรียวเล็กลง ทำให้สัดส่วนดูกระชับสวยงามมากขึ้นอีกด้วย โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และสามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ของแต่ละบุคคล
โบท็อกซ์ ฉีดตรงไหน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ความโดดเด่นของการฉีดโบท็อกซ์ คือ หัตถการที่ทำได้ง่ายด้วยการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิวบริเวณเป้าหมาย เพื่อปรับผิวให้กระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ ปรับสัดส่วนให้เรียวสวย จึงสามารถฉีดโบท็อกซ์ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้หลายจุด ดังนี้
- หน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว
- ลดริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา โบท็อกซ์ยกหางตา
- ริ้วรอยร่องแก้ม รอยย่นที่แก้ม ร่องน้ำหมาก
- ลดขนาดปีกจมูก ช่วยให้ปลายจมูกมีขนาดเล็ก และเรียวสวยมากขึ้น
- ลดขนาดกราม ช่วยปรับใบหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-shape
- ฉีดโบท็อกซ์กระชับรูขุมขน ช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
- กล้ามเนื้อแขน ลดขนาดน่อง ทำให้แขน และขาเรียวสวยสมส่วน
- โบท็อกซ์รักษาอาการออฟฟิศซินโดรม บรรเทาอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด และอาการไมเกรน
- ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ลดปัญหากลิ่นตัวเหมาะ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากทั้งเหงื่อที่บริเวณฝ่าเท้า ฝ่ามือและรักแร้
การฉีดโบท็อกซ์ เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยทั้งแบบตื้น และแบบลึก ปัญหาผิวเหี่ยวย่นขาดความกระชับเพราะอายุที่เพิ่มขึ้น ตลอดไปจนถึงปัญหาผิวที่เกิดจากปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ มลภาวะ แสงแดด ฝุ่นควัน ความเครียด อาหารที่ทำร้ายผิว
- ผู้ที่ต้องการฉีดลดขนาดกราม ปรับกรอบหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-shape ได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่มีรูขุมขนขนาดใหญ่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการปรับลดขนาดของปีกจมูกให้เล็กลง ทำให้จมูกเรียวสวยมากขึ้น โดยไม่ต้องศัลยกรรมเสริมจมูก
- ผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ ทั้งที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และที่รักแร้ ทำให้เกิดกลิ่นตัวและรู้สึกขาดความมั่นใจ
- ผู้ที่มีปัญหากล้ามแขนใหญ่ ต้นแขนหนา บ่าใหญ่ หรือกล้ามเนื้อน่องขาปูด
ฉีดโบท็อกซ์ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดได้บ่อยแค่ไหน
โดยปกติแล้วแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณตัวยามากเกินจำเป็น จนส่งผลอันตรายหรืออาจทำให้เกิดภาวะดื้อโบท็อกซ์ได้ โดยแพทย์จะกำหนดปริมาณตัวยาที่ต้องใช้แต่ละจุดอย่างเหมาะสม และเว้นระยะห่างของการฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้งอย่างน้อย 3-5 เดือน เพื่อให้ตัวยาได้ออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โบท็อกซ์ ลดกราม ลดกรอบหน้าได้จริงไหม?
โบท็อกซ์ คืออะไร? ฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดกราม ลดกรอบหน้าได้จริงไหม? เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลาย ๆ คนอยากรู้ ตัวยาโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าชั้นผิวบริเวณกรอบหน้า จะออกฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งออกจากกัน และช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อได้ชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน จึงส่งผลให้มีขนาดเล็กลงทำให้บริเวณกรามและกรอบหน้า ดูเรียวสวยเป็นทรง V-shape โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด
โบท็อกซ์กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 2-3 วันจะเริ่มสังเกตเห็นได้ว่าผิวบริเวณที่ฉีดดูเรียบเนียน และเต่งตึงมากขึ้น ริ้วรอยทั้งแบบตื้น และแบบลึกแลดูจางลงก่อนที่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มที่ในช่วง 10-14 วัน สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามจะเริ่มเห็นผลได้อย่างเต็มที่หลังฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 4-6 สัปดาห์ สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 4-8 เดือนทั้งนี้อาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อโบท็อกซ์และปริมาณตัวยาที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์รวมไปจนถึงการดูแลผิวหลังฉีดโบท็อกซ์ของแต่ละบุคคล
ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม?
หลายคนอาจรู้สึกเป็นกังวลว่า การฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม? ฉีดโบท็อกซ์แล้วจะทำให้หน้าแข็ง ยิ้มแข็ง หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวตามที่เคยเห็นในข่าวบ่อย ๆ หรือไม่ ตอบได้เลยว่า การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ลดกราม ลดหน้าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงหลังการรักษาค่อนข้างน้อย โดยอาจทำให้เกิดแค่เพียงรอยแดงเข็ม รอยบวมช้ำตรงบริเวณที่ฉีดซึ่งจะหายเป็นปกติได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
จุดสำคัญ คือ ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกเสริมความงามที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการรักษาและมีการประเมินปัญหาผิวโดยละเอียด ก่อนเริ่มขั้นตอนการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตัวยาโบท็อกซ์ที่ใช้เป็นของแท้ 100% ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย และแพทย์จะต้องแกะกล่องโบท็อกซ์ใหม่ต่อหน้าผู้เข้ารับบริการเท่านั้น
สำหรับเคสที่มีปัญหาหลังการฉีดโบท็อกซ์ ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าแข็งเป็นก้อน หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวหรือทำให้เสียโฉม โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดขึ้น เพราะการฉีดโบท็อกซ์กับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หมอกระเป๋า และตัวยาที่ใช้เป็นยาเถื่อน ยาหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน
สรุป
โบท็อกซ์ คืออะไร? (Botox) หัตถการลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็ว ช่วยปรับลดกราม ลดกรอบหน้าให้เรียวสวยได้ทรง V-shape ได้อย่างที่ใจต้องการ ด้วยหลักการทำงานสำคัญของโบท็อกซ์คือการออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลง กล้ามเนื้อที่เคยหดหรือเกร็งตลอดเวลาจึงค่อยๆ คลายตัวออกส่งผลให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เคยมีแลดูจางลงเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในช่วง 10-14 วัน
และการฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเรียวเล็กส่งผลดีต่อการปรับลดสัดส่วนทั้งลดขนาดกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อน่อง โดยจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนภายในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังฉีด สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ The Miss Clinic ได้ทุกสาขา หรือแอดไลน์ @themiss เพื่อสอบถามข้อมูล โปรโมชั่น หรือดูรีวิวฉีดโบท็อกซ์ได้เลยค่ะ